สมัยก่อนกรุงศรีอยุธยา


สมัยก่อนกรุงศรีอยุธยา
จากการพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์หลายครั้งหลายหนในระยะหลังๆ นี้ อาทิ เครื่องปั้นดินเผา พระพุทธรูป อัญมณีเครื่องประดับ ของใช้ประจำบ้านและเงินพดด้วง ซึ่งขุดพบใต้ฐานเจดีย์เก่าที่บ้านโนนแกด ตำบลทุ่ม อำเภอเมืองศรีสะเกษ เมื่อต้นเดือนมีนาคม ๒๕๒๖ และที่หลายแห่งในพื้นที่ของกิ่งอำเภอห้วยทับทัน และอำเภออื่นๆ
นักโบราณคดีได้วิเคราะห์เปรียบเทียบหลักฐานศิลปวัตถุ เช่น เจดีย์บ้านโนนแกด ซึ่งเป็นเจดีย์รูปดอกบัว ตัวเจดีย์ย่อมุมมีบัวคว่ำบัวหงาย อายุประมาณ ๑,๒๐๐-,๓๐๐ ปี และได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ใหญ่มาแล้ว ๒ ครั้งหลังจากที่ได้สร้างเสร็จ ครั้งแรกเมื่อประมาณ พ.. ๑๗๐๐-๑๘๐๐ และครั้งที่ ๒ เมื่อประมาณ พ.. ๒๐๐๐-๒๑๐๐
นอกจากนั้นวัตถุโบราณอื่นๆ ที่ขุดพบ อาทิ เป็นถ้วยชาม หม้อ ไห สันนิษฐานว่า เป็นเครื่องปั้นดินเผาของชนชาติสยาม และบางส่วนเป็นศิลปะของชนชาติขอมแต่ไม่มากนัก ซึ่งอาจจะเกิดจากการซื้อขายแลกเปลี่ยนกันระหว่างชนชาติสยามกับชนชาติขอม ประกอบกับมีปราสาทหินที่เก่าแก่หลายแห่งในจังหวัดศรีสะเกษ เช่น ปราสาทหินสระกำแพงใหญ่ ปราสาทหินสระกำแพงน้อย อำเภออุทุมพรพิสัย ธาตุหรือปรางค์บ้านปราสาท ธาตุบ้านเมืองจันทร์ อำเภอห้วยทับทันปราสาทปรางค์กู่บ้านกู่ ปราสาทบ้านสมอ อำเภอปรางค์กู่ ปราสาทเยอ ธาตุจังเกา อำเภอไพรบึงและประสาทหรือธาตุที่เก่าแก่ซึ่งยังพอมีซากปรากฏอยู่ในท้องที่อำเภอต่างๆ ของจังหวัดศรีสะะเกษและจากหลักฐานที่พบในหนังสือที่เขียนไว้เป็นภาษาขอมโบราณเป็นเรื่องราวที่กล่าวถึงการสร้างปราสาทเขาพระวิหาร ปราสาทบ้านกู่ อำเภอปรางค์กู่ ซึ่งสร้างในสมัยที่ขอมเรืองอำนาจเวลาไล่เลี่ยกันคือราวในราวปลายพุทธศตวรรษที่ ๑๖ ในสมัยพระเจ้าวรมันที่ ๑ ปกครองเขมร
อาศัยหลักฐานต่างๆ ทางประวัติศาสตร์ที่กล่าวแล้วพอจะอนุมานได้ว่า พื้นที่จังหวัด
ศรีสะเกษในปัจจุบัน เป็นที่อยู่อาศัยของชนชาติสยามและขอมมาเป็นเวลาช้านานประมาณไม่ต่ำกว่า ๑,๓๐๐ ปี แต่ก็ได้มีการอพยพเคลื่อนย้ายถิ่นฐานเป็นครั้งคราว ซึ่งอาจจะเป็นการอพยพหลบหนีภัยน้ำ
ท่วมใหญ่หรือเกิดจากการกันดารน้ำและโรคภัยไข้เจ็บ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น